สัมผัสฤดูฝนกับ Road Trip @กัลยาณิวัฒนา (EP.2)
มาต่อกันที่ EP.2 เรายังคงอยู่ที่ป่าสนวัดจันทร์ หลังจากที่นอนหลับพักผ่อนกันอย่างสบาย เพราะอากาศที่นี่เย็นๆ และฝนตกโปรยปรายทั้งคืน เช้า ๆ ก็พากันออกมาเดินเล่นชมวิวต้นสน และต้นไม้ที่เขียวชะอุ่มเต็มไปหมด สำรวจรอบ ๆ ที่พัก ก่อนไปทานอาหารเช้า ที่นี่มีบริการอาหารเช้าเป็นข้าวต้น ผัดผัก ไข่เจียว กุนเชียงทอด
ทานเสร็จแล้วก็ออกมาเดินถ่ายรูปเล่นกันต่อ ชมวิวสวนสนที่ขึ้นเรียงรายกันเยอะมาก อากาศก็ดีมาก ๆ เช่นกัน
ที่นี่ยังมีจุดที่ใครๆ ก็อยากมา Check in และไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่คือ อ่างเก็บน้ำ ที่ตั้งอยู่ในโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ เป็นอ่างเก็บน้ำที่โอบล้อมไปด้วยป่าสน ในยามเช้ามักจะมีสายหมอกลอยปกคลุมเหนือผืนน้ำและทิวสน ความสวยงามไม่แพ้ “ปางอุ๋ง” ที่แม่ฮ่องสอนเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายเราคงจะตื่นสายกันไปหน่อย เลยไม่ได้เห็นไอหมอกที่ลอยขึ้นมา แต่โดยรวมแล้ววิวและธรรมชาติที่นี่สวยงามจริงๆ
และในสำนักงานของป่าสนวัดจันทร์ ยังมีร้านกาแฟน่ารัก ๆ ไว้บริการนักท่องเที่ยว นั่งจิบกาแฟชมบรรยากาศของสวนสนเข้ากันได้ดีเลยทีเดียวนะเนี่ย
เราขับรถออกจากป่าสนวัดจันทร์ เพื่อไปจุดแลนด์มาร์คหากใครที่มาเที่ยวอำเภอกัลยาณิวัฒนาต้องห้ามพลาด นั่นก็คือ "วัดจันทร์" วิหารแว่นตาดำ เป็นวัดเก่าแก่ประจำอำเภอกัลยาณิวัฒนา สร้างมานานกว่า 80 ปี บรรยากาศของวัดที่นี่เรียบง่าย และเงียบสงบ แต่ที่มีความโดดเด่น และก็คือ วิหารแว่นตาดำ ลักษณะคล้ายคนสวมแว่นตา ใครมาที่นี่ก็ต้องมาเที่ยวชมวิหารและแวะไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลกันหน่อย
หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางกลับ โดยใช้เส้นทาง กัลยาณิวัฒนา - สะเมิง - แม่ริม เชียงใหม่ ซึ่งระหว่างทางเราขับรถผ่าน "ม่อนเหยียบเมฆา" จุดชมวิวทิวเขาแบบ 360 องศา ในบ้านแม่แดด จังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่จะเป็นจุดชมวิวที่อยู่ติดริมถนน สามารถแวะพักรถเพื่อชมวิวได้ เนื่องจากจุดชมวิว อยู่บนที่สูงจึงสามารถมองเห็นบรรยากาศได้รอบตัว จะมีมุมให้พักผ่อน และถ่ายรูป อากาศดี ลมพัดเย็นสบาย
ออกเดินทางกันต่อระหว่างทางไป อ.สะเมิง ระหว่างทางมีฝนตกปรอย ๆ มีไอหมอกบ้างบางจุด มีป่าเขาลำเนาไพร ต้นไม้ และฝูงวัวบ้าง แต่ไม่ค่อยมีบ้านของชาวบ้านเท่าไหร่ ขับมาจนถึง อ.สะเมิง แวะทานอาหารตอนบ่าย ๆ แต่วิวก็สวยดี
เดินทางจากอ.สะเมิง เข้าสู่ อ.แม่ริม และเดินทางถึงตัวเมืองเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ การมาเที่ยวอ. กัลยาณิวัฒนา ในครั้งนี้ถือว่าเเป็นเส้นทางน่าเที่ยวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ วิถีชีวิตชุมชนเล็กๆ ของชาวบ้าน ความเงียบสงบ เราได้พบเห็นป่าสนที่เรียงรายไปตลอดเส้นทาง ที่พัก ราคาไม่แพง ยิ่งถ้ามาช่วงฤดูฝน บรรยากาศ ธรรมชาติ ที่นี่ชวนให้ประทับใจมาก
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณคร่าวๆ
- ค่าที่พัก 1,500 (2 คน) คนละ 750 บาท
- ค่าอาหาร ประมาณคนละ 1,250 บาท
- ค่าน้ำมันรถ ประมาณ 3,000 บาท (เฉลี่ยกันก็ประมาณคนละ 1,000 บาท)
#GetRoute #TravelRouteSetter #GetRouteClub #RouteSetter #การรับรู้เป็นประสบการณ์จริงด้วยการเดินทาง #Thailand