สัมผัสฤดูฝน กับ Road Trip @กัลยาณิวัฒนา (EP.1)
ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน มองทางไหนก็ดูสดชื่น เขียวชุ่มฉ่ำใจ โดยเฉพาะการได้ขับรถออกไปสัมผัสกับธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร ซึ่งวันนี้เราและเพื่อนๆ นัดกันว่าจะเดินทางไปยัง อ. กัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการเดินทางไปยังที่นี่เป็นครั้งแรก เมื่อพร้อมกันแล้วก็ออกเดินทางกันแต่เช้า เริ่มต้นจากตัวเมืองเชียงใหม่ เวลา 8.00 น. โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 ผ่านอำเภอแม่ริม ไปเรื่อยๆจนถึงอำเภอแม่แตง เมื่อเจอแยกแม่มาลัยให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1095 จากนั้นใช้เส้นทางนี้ไปตลอดจนถึงอำเภอปาย ระยะทางในเส้นนี้ประมาณ 103 กิโลเมตร ค่ะ
ระหว่างทางมีฝนตกปรอย ๆ ก็จะมีไอหมอกและละอองฝนที่โปรยลงมาหลังจากฝนตก ทำให้เห็นถนนและต้นไม้สีเขียวข้างทางที่สวยไปอีกแบบ ขับผ่านอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ขับเข้าไปชมวิวกันสักหน่อยแต่ฟ้าปิด จนท.บอกแล้ว แต่ก็ยังขับเข้าไปกันอีก แต่ฝนตกเลยไม่เห็นวิวใด ๆ
ออกจากอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังก็ขับรถกันต่อ เรากับเพื่อนๆ ปรึกษากันว่า อ.กัลยาณิวัฒนา เป็นอำเภอเล็กๆ ไม่น่าจะมีร้านอาหารอะไร ก็ตกลงกันว่าจะขับรถไปหาอาหารทานกันก่อนที่ อ.ปาย จ. แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ติดกับ อ.กัลยาณิวัฒนา เพราะจากเชียงใหม่ถึง อ.ปาย ก็เที่ยงพอดี ผ่าน 762 โค้งเข้ามาจนถึงในตัวเมืองปาย เมืองเล็ก ๆ ที่ยังคงความสวยงาม น่ารักเสมอ
ขับรถเข้ามาถึง อ.ปาย ตอนกลางวันนักท่องเที่ยวจะน้อยมาก ดูเงียบสงบ เราแวะหาร้านอาหารทานกัน และเดินเล่นแถวนั้นแป๊บนึง แวะหากาแฟทานหลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จ แล้วเลือกร้าน "เค้กโกโอ" เป็นคาเฟ่ที่ใหญ่เลย มีทั้งเค้กและเบเกอรี่ อร่อยๆ
หลังจากแวะทานอาหารและดื่มด่ำกาแฟกันแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางขับรถจาก อ.ปาย ไปยัง อ.กัลยาณิวัฒนา กันต่อ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ได้ ชมวิวป่าเขาลำเนาไพรไปก่อน ทางโค้งนิดหน่อย
ระหว่างทางเราจะเจอ "น้ำพุร้อนเหมืองแร่" เป็นน้ำพุร้อนที่อยู่ติดข้างถนนเลย อยู่เส้นทางจากอำเภอปาย ไปอำเภอกัลยานิวัฒนา เป็นน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมาก ๆ ตั้งอยู่ ณ หย่อมบ้านเหมืองแร่ (ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง) บ้านสบสา หมู่ที่ 4 ตำบลเมืองแปง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ค่ะ
และแล้วพวกเราก็เดินทางมาจนถึงที่พัก "ป่าสนวัดจันทร์" ที่พักจะอยู่ใน องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ด้วยเวลาเกือบ 15.00 น. ที่พักที่นี่มีให้เลือกหลายแบบ (ต้องจองล่วงหน้าเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักเป็นจำนวนมาก) และลานกางเต็นท์ไว้ให้บริการ ราคาเริ่มต้น 800 บาท เราพักที่ "บ้านวิวน้ำ" ราคาคืนละ 1,500 บาท ด้านในเป็นเตียงคู่ 1 เตียง มีเครื่องนอนของใช้ และห้องน้ำในตัว มีเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้บริการ
ในป่าสนวัดจันทร์ยังมีร้านอาหาร และร้านกาแฟ ไว้บริการนักท่องเที่ยว เมื่อเข้าที่พักแล้วก็ออกมาเดินเล่นชมบรรยากาศของป่าสน ที่ร่มรื่น อากาศเย็นสบาย ชุ่มฉ่ำด้วยสายฝน ที่นี่เงียบสงบมาก ได้ฟังเสียงจิ้งหรีด เรไร เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง
เนื่องจากเรามากันเป็นหมู่คณะ เราก็มาขอใช้สถานที่เค้าทำอาหารเย็นทานกันเอง และหลังจากรับประทานอาหารเย็นกันเรียบร้อยแล้ว ก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวที่ไหนติดตามอ่านกันต่อใน EP.2 ได้นะคะ
#GetRoute #TravelRouteSetter #GetRouteClub #RouteSetter #การรับรู้เป็นประสบการณ์จริงด้วยการเดินทาง #Thailand